วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกครั้งที่6


การบันทึกครั้งที่ 6 / วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559
เรียนเวลา13.30 - 17.30 น.

     การจัดประสบการณ์ การเรียนการสอนโดยการแก้ปัญหา โดยครูตั้งปัญหาให้เด็กได้ทดลองลงมือทำ แก้ปัญหา และสร้างผลงานของตนเอง โดยมีโครงสร้างดังนี้  
  • วิเคราะห์แนวคิด
  • ศึกษาวัสดุที่มีอยู่
  • ลงมือทำ (เกิดการแก้ปัญหา)
  • นำเสนอ
ตัวอย่างกิจกรรม 
        จัดกิจกรรมเกี่ยวกับรูปทรง ให้เด็กคุ้นเคยกับรูปทรงต่างๆผ่านการเล่นบล็อก เกมส์การศึกษา หรือสิ่งต่างๆรอบตัว 
ครูทำรูปแบบที่ให้เด็กเห็นภาพจริง เช่น การตัดไม้มาต่อเป็นรูปร่างแล้วเอาดินน้ำมันเป็นฐานยึด
เด็กยังไม่เห็นด้านของรูปทรงนั้นๆ วิธีการเรียนรู้ คือ ครูให้เด็กตัดกระดาษมาแปะ ตามด้านของรูปทรงนั้นๆ เพื่อให้เด็กเห็นภาพชัดขึ้น เกิดทักษะต่างๆ คือ
        E (engineering) = โครงส้ราง
        S (Science) = ดินน้ำมัน ไม้
        T (technology) = การนำเสนอ
       M (mathematics) = จำนวนนับไม้  จำนวนมุม  ความสั้น ยาว การวัด รูปทรง

ภาพบรรยากาศระหว่างทำกิจกรรม







รูปทรงสามเหลี่ยม



รูปสี่เหลี่ยม



รูปทรงสี่เหลี่ยม





การจัดประสบการณ์คณิตศาตร์บรูณาการศิลปะสร้างสรรค์
         1.การสร้างโมเดลโครงสร้างรูปทรง ให้เด็กต่อเติเป็นรูปต่างๆ ผ่านศิลปะ
         2.ให้เด็กวาดภาพตามจินตนาการ แล้วนำมาบรูณาการคณิตศาสตร์ ได้ 2 แบบ คือ
  • ถามเด็กโดยตั้งจำนวนก่อน เช่น ในภาพของเด็กๆ มีอะไรบ้างที่มี 3 จำนวน
  • ให้เด็กนับจำนวนจากสิ่งที่เด็กวาดว่ามีจำนวนเท่าไหร่

       ครูอนุบาลต้องดึงสิ่งที่เด็กมีออกมาและจัดประสบการณ์ การจัดประสบการณ์นั้นต้องสอดคล้องกับชีวิตประจำวันเพราะประสบการณ์เดิม >> สู่ประสบการณ์ใหม่ >> สู่การปรับโครงสร้าง >> การรับรู้ >> เกิดการเรียนรู้ >> เพื่อเอาตัวรอด

ทักษะที่ได้รับ
  • ทักษะการแก้ปัญหา
  • ทักษะการคิดวิเคราะห์
  • ทักษะการสังเกต
  • ทักษะรูปทรง
  • ทักษะการตอบคำถาม

การนำมาประยุกต์ใช้
วิธีการจัดประสบการณ์ให้แก่เด็กนั้นเราต้องดึงสิ่งที่เด็กมีออกมา แล้วนำมาจัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของเด็กให้เด็ก สามารถดึงทุกอย่างมาบูรณาการในคณิตศาสตร์ได้ 
บรรยากาศในห้องเรียน
โต๊ะ เก้าอี้เพียงพอต่อนักศึกษา สะอาดเรียบร้อย อุณหภูมิในห้องพอดี
การจัดการเรียนการสอน
มีการเตรียมการสอนอย่างดี ให้นักศึกษาได้ลงมือทำจริง ได้คิด วิเคราะห์ และรู้จักการลองผิดลองถูก การแก้ปัญหา

ประเมินตนเอง ตั้งใจฟังเวลาอาจารย์สอนและร่วมทำกิจกรรมอย่างเต็มที่                       
ประเมินเพื่อน : มีความตั้งใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ไม่คุยกัน ช่วยกันตอบคำถาม            
ประเมินอาจารย์ : แต่งกายสุภาพ พูดเสียงดังฟังชัดเจน 


วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกครั้งที่5



การบันทึกครั้งที่ 5 / วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559
เรียนเวลา13.30 - 17.30 น.


            กิจกรรมแรก อาจารย์แจกกระดาษคนละ 1 แผ่น ให้นักศึกษาวาดตารางที่อาจารย์กำหนดมาให้ จากนั้นอาจารย์ให้แรเงาช่องที่เป็น 2 แถว โดยให้โจทย์ว่า ให้แรเงา 2 ช่องติดกัน รูปแบบไหนก็ได้ให้ได้มากที่สุด โจทย์ต่อมาคือ ให้แรเงาช่องที่มี 3 แถว โดยแรเงา 3 ช่องติดกัน รูปแบบไหนก็ได้ให้ได้มากที่สุด

กิจกรรมที่สอง นำเสนอหน้าชั้นเรียน




(กิจกรรมที่สาม อาจารย์ให้ดูวิดีโอ)
การเรียนการสอนแบบ  Project Approach


ความรู้ที่ได้รับ
         ก่อนจะจัดกิจกรรมหรือประสบการณ์ใดๆ ให้แก่เด็ก ครูจะต้องประเมินพัฒนาการว่าเด็กมีความสามารถ มีศักยภาพมากน้อยเพียงใด และศึกษาทำความเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน เพื่อจะได้สามารถจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านไปพร้อมๆ กัน และทำให้กิจกรรมนั้น บรรลุวัตถุประสงค์ได
        จากกิจกรรมการแรเงาช่องสี่เหลี่ยมนั้น ทำให้ได้ความรู้ว่า โจทย์ 1 โจทย์ เราสามารถคิดได้หลากหลายรูปแบบ แตกแขนงได้มากมาย และสังเกตได้ว่าเพื่อนแต่ละคนนั้น มีจำนวนการแรเงาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเหมือนกับการจัดการเรียนการสอนให้เด็ก เด็กย่อมมีความแตกต่างระหว่างบุคคล ครูต้องเรียนรู้และจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็ก
จากวิดีโอ โทรทัศน์ครู การสอนแบบ Project Approach นั้น ทำให้ความรู้จากผู้มีประสบการณ์และได้เห็นวิธีการจัดการเรียนการสอนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้การเรียนรู้ของเด็กเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ทักษะที่ได้รับ
ทักษะการคิดจากโจทย์ปัญหา                     
ทักษะการคิดสร้างสรรค์ หรือการคิดแตกแขนง
ทักษะการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
                        
การนำมาประยุกต์ใช้
จากกิจกรรมวันนี้ ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ คิดอย่างหลากหลายรูปแบบ ซึ่งฝึกให้เรารู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ ได้
สามารถนำไปใช้ในการจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมให้แก่เด็ก
สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆได้

บรรยากาศในห้องเรียน
การสอนของอาจารย์จะเน้นกระบวนการคิดและการวิเคราะห์พร้อมให้นักศึกษาตอบคำถามและมีการตั้งคำถามปลายเปิด สามารถให้นักศึกษาตอบคำถามของอาจารย์ได้หลายคน ทำให้มีการคิดที่แตกต่างกันออกไปและคำตอบของแต่ละคนจะไม่มีผิดหรือถูกอาจารย์จะคอยเพิ่มเสริมให้อยู่ตลอดเวลา

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังเวลาอาจารย์สอนและร่วมทำกิจกรรมอย่างเต็มที่                       
ประเมินเพื่อน : มีความตั้งใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ไม่คุยกัน ช่วยกันตอบคำถาม            
ประเมินอาจารย์ : แต่งกายสุภาพ พูดเสียงดังฟังชัดเจน 






บันทึกครั้งที่4



การบันทึกครั้งที่ 4 / วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559
เรียนเวลา13.30 - 17.30 น.



เนื้อหาที่เรียน  ความรู้ที่ได้รับ
              วันนี้เริ่มการเรียนการสอนโดยการอาจารย์แจกป้ายชื่อให้คนละ 1 ใบ เขียนชื่อตัวเอง แล้วไปติดบนกระดาน โดยที่บนกระดานอาจารย์วาดตาราง  เวลาการตื่นนอน จะมี 3 ช่อง คือช่องแรก คนที่ตื่นก่อน 7:00   ช่องที่ 2  ตื่นนอนเวลา  07:00  ช่องที่ 3  ตื่นนอนหลัง 07:00
              ซึ่งกิจกรรมจากตารางข้างต้นใช้ไม่ได้กับเด็กปฐมวัย เพราะยากเกินไป เด็กยังดูนาฬิกาไม่เป็น จะปรับปรุงโดยการ  ให้เด็กจดบันทึกก่อน หรืออาจจะให้พ่อแม่จดบันทึกมาให้ตั้งแต่บ้าน แล้วนำมาติด เพราะการเรียบนการสอนไม่ใช่จัดอยู่แค่ในห้องเรียน หรือ ไม่ใช่แค่ครูที่โรงเรียนจัด  ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง


กิจกรรมต่อมาอาจารย์เขียนตัวเลขไว้บน กระดานโดยมาตัวเลขดังนี้
3525    11  155  350   แล้วให้นักศึกษาทายว่าตัวเลขที่นักศึกษาเห็นเกี่ยวข้องหรือสำคัญกับอาจารย์อย่างไร  ต่อมาอาจารย์ให้นักศึกษาออกไปเขียนตัวเลขที่สำคัญ 1 คน 
ซึ่งได้แก่ นางสาวกมลชนก ทองสารไตร  20   37  138  3204
      แล้วให้เพื่อนๆทายว่า ตัวเลขข้างต้นเกี่ยวข้องหรือสำคัญอย่างไร ซึ่งแต่ละตัวเลขมีความสำคัญดังนี้
20  =  จำนวนเพื่อนในห้อง
37  =  คือตัวเลขที่เป็นสิริมงคล
138  =  เลขทะเบียนบ้าน
3204  =  เลขห้องพัก
จากกิจกรรมข้างต้นคือ ตัวเลขล้วนแต่อยู่ในชีวิตประจำวันของเราที่พบเห็นกับบ่อยๆ





          กิจกรรมต่อมา  อาจารย์เอาสื่อออกมาให้ดู 1 ชิ้น พร้อมถามว่าสื่อที่อาจารย์นำมาในวันนี้เหมาะสมหรือควรแก้ไขในส่วนไหนบ้าง  เช่น  สีที่ไม่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย  เพราะว่า เป็นสีสะท้อนแสงและอุปกรณ์ที่ใช้ไม่แข็งแรง ใช้งานได้ไม่ยาวนานนัก
สิ่งที่เด็กได้รับจากสื่อชิ้นนี้คือ  เด็กมีประสบการณ์จากตัวเลขและเด็กได้เอาตัวเลขไปแปะบนสื่อ  ได้รู้จักสีประจำวัน  เช่น  วันนี้สีอะไร  3 วันที่ผ่านมาคือวันอะไร  วันแรกของสัปดาห์คือวันอะไร 
เกมส์การศึกษามีทั้งหมด  8 ประเภท
1.จับคู่
2.ภาพตัดต่อ
3.วางภาพต่อปลาย
4.การเรียงลำดับ
5.จัดหมวดหมู่
6.เกมศึกษารายละเอียดภาพ
7.พื้นฐานการบวก
8.เกมจับคู่แบบตารางสัมพันธ์ 
กิจกรรมหลักมีทั้งหมด 6 กิจกรรม
1.กิจกรรมเสริมประสบการณ์
2.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
3.กิจกรรมเสรี
4.กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
5.กิจกรรมกลางแจ้ง
6.เกมการศึกษา
ต่อมาอาจารย์ให้เพื่อนๆ ออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียน 



1.นางสาววนิดา  สาเมาะ   นำเสนอ  วิจัย "การพัฒนาความพร้อมด้านคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้การละเล่นพื้นบ้านของไทย"
2.นางสาวปรีชญา  ชื่นแย้ม  นำเสนอ  "ตัวอย่างการสอน VDO "ตัวเลขกับเด็กปฐมวัย"
3.นางสาวเรณุกา  บุญประเสริฐ  นำเสนอ วิจัย "ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมศิลปะสื่อผสม"
4.นางสาว หทัยชนก  นำเสนอ  บทความ  "สอนคณิตศาสตร์อย่างไรให้สนุก"

       ต่อมาอาจารย์บรรยายหัวข้อ " สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย"เพิ่มเติมจากอาทิตย์ที่แล้ว  โดยมีทั้งหมด 6 สาระ  ดังนี้
      สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ 
      สาระที่ 2 : การวัด 
      สาระที่ 3 : เรขาคณิต มาตรฐาน 
      สาระที่ 4 : พีชคณิต 
      สาระที่ 5 : การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น 
      สาระที่ 6 : ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 
                  และสุดท้ายอาจารย์ให้นักศึกษาออกมานำสเนอของเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย 




ทักษะที่ได้รับ
ทักษะการคิด                     
ทักษะการวิเคราะห์
ทักษะการนับ
ทักษะการจัดหมวดหมู่
                        
การนำมาประยุกต์ใช้
สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน 
สามารถนำไปใช้ในการจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมให้แก่เด็ก
สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมต่างๆได้
สามารถเลือกสื่อที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็กได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

บรรยากาศในห้องเรียน
การสอนของอาจารย์จะเน้นกระบวนการคิดและการวิเคราะห์พร้อมให้นักศึกษาตอบคำถามและมีการตั้งคำถามปลายเปิด สามารถให้นักศึกษาตอบคำถามของอาจารย์ได้หลายคน ทำให้มีการคิดที่แตกต่างกันออกไปและคำตอบของแต่ละคนจะไม่มีผิดหรือถูกอาจารย์จะคอยเพิ่มเสริมให้อยู่ตลอดเวลา

ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังเวลาอาจารย์สอนและร่วมทำกิจกรรมอย่างเต็มที่                       
ประเมินเพื่อน
มีความตั้งใจและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ไม่คุยกัน ช่วยกันตอบคำถาม            
ประเมินอาจารย์
แต่งกายสุภาพ พูดเสียงดังฟังชัดเจน 


วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ของเล่นบูรณาการคณิตศาสตร์



แป้งโดว์เสริมสร้างจินตนาการ



        แป้งโดว์ คือแป้งปั้นที่ให้เด็กเล่นแทนดินน้ำมัน ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านร่างกาย โดยฝึกให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้แก่ มือและนิ้วมือ นวด คลึง และปั้นแป้งโดว์เป็นรูปต่างๆตามความต้องการ พัฒนาการทางด้านอารมณ์และสังคมโดยเด็กได้เล่นแป้งโดว์ด้วยความสนุกสนาน เพลิดเพลิน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองสามารถเล่นร่วมกับบุตรหลานของท่านได้ โดยเด็กจะได้พัฒนาจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในการปั้นแป้งโดว์เป็นรูปร่างต่างๆ รวมถึงฝึกสมาธิมิติสัมพันธ์ทั้ง EQ และ IQ นอกจากนี้ แป้งโดว์ยังเล่นง่าย จัดเก็บสะดวก เพียงนวดให้เป็นก้อนเดียวกัน และเก็บใส่กล่องให้มิดชิด อีกทั้งไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก เนื่องจากส่วนผสมที่ใช้ทำแป้งโดว์ไม่มีสารพิษ ปราศจากสารกันบูดใดๆ ส่วนประกอบทั้งหมดมาจากส่วนผสมที่ใช้ทำขนม 100% และใช้สีผสมอาหารในการทำ แถมมีกลิ่นหอม เสริมสร้างทักษะเด็กในด้านประสาทสัมผัสอีกด้วย

ข้อดีของแป้งโดว์คือ มีความเหนียวและความอ่อนตัวกว่าดินน้ำมัน ทำให้สามารถตัดแบ่งและปั้นรูปทรงได้พลิกแพลงกว่า อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นของดินน้ำมันและน้ำมันเปื้อนติดมือ การปั้นแป้งโดว์ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อของเด็กให้แข็งแรงขึ้น เพื่อฝึกเป็นทักษะให้เด็กสามารถหยิบจับดินสอขีดเขียนได้อย่างมั่นคง เตรียมพร้อมสู่วัยอ่านเขียนเรียนหนังสือต่อไป กลิ่นและสีผสมอาหารที่ใช้ทำแป้งโดว์ควรเลือกที่มี อย.รับรอง เมื่อส่วนผสมทุกอย่างปลอดภัยไม่มีสารเคมีเจือปน เด็กทานได้แต่เค็มมาก อย่างไรก็ตามเวลาเด็กเล่นผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด และสอนเด็กว่าเป็นของเล่น อย่ากินเด็กๆ เห็นสีสดใสมักจะชอบเอาเข้าปาก

ประโยชน์ของการเล่นแป้งโดว์
• พัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดเล็ก มือและนิ้วมือ ในการนวด นวด คลึง และปั้นแป้งโดว์
• พัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ แขนหยิบจับ ยกแป้งโดว์เล่น
• พัฒนาประสาทสัมพันธ์ สอดคล้องระหว่างตากับมือ ระหว่างที่ปั้นแป้งโดว์
• พัฒนาทักษะทางด้านภาษาในการอธิบายผลงานของตนเอง
• พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
• ฝึกสมาธิทำให้เด็กจดจ่อกับงานที่ทำได้นานมากขึ้น
• ผ่อนคลายอารมณ์เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินขณะทำกิจกรรม
• เสริมสร้างความภูมิใจในตัวเอง พึงพอใจในผลงานของตน
• พัฒนาการทางด้านสังคม โดยเด็กสามารถเล่นแป้งโดว์ร่วมกับเพื่อน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง และญาติผู้ใหญ่ได้
• ฝึกนิสัยการเก็บของเล่นให้เป็นที่ การรักษาของ เพราะหลังจากเล่นเสร็จแล้วต้องเก็บแป้งโดว์ให้มิดชิด และดูแลแป้งโดว์ให้มีอายุนานขึ้นเพื่อที่จะนำมาเล่นได้อีกในครั้งต่อไป
• แป้งโดว์สูตรที่มีกลิ่นหอม ฝึกทักษะการเรียนรู้ ผ่านประสาทสัมผัสทางการดมกลิ่นได้เป็นอย่างดี

         สามารถนำมาบูรณาการกับวิชาคณิตศาสตร์ คือ การปั้นแป้งเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น วงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ต่างๆ เด็กได้รู้ถึง ขนาด ชนิด ของอุปกรณ์ การกะปริมาณของวัสดุ ที่ทำแป้ง ซึ่งในวันนี้ จะยังไม่สามารถใช้การวัดแบบมาตรฐานได้ การนับ รูปร่างที่เด็กปั้นต่างๆ 





บันทึกครั้งที่3


การบันทึกครั้งที่ 3 / วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2559
เรียนเวลา13.30 - 17.30 น.

เนื้อหาที่เรียน  ความรู้ที่ได้รับ
          อาจารย์แจกกระดาษให้นักศึกษาเขียนชื่อตนเองและนำไปแปะหน้าห้องเรียน จากกิจกรรมนี้เด็กสามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันได้  เช่น จากจำนวนเด็กทั้งหมด 21 คน  มาเรียน 18 คน จะเหลือเด็กที่ไม่มาเรียนอยู่ 3 คน เด็กจะได้เรียนรู้การลบการบวกเพิ่มจำนวน ในทุกๆวัน  จำนวนของเด็กในการมาและไม่มาโรงเรียนจะมีโอกาสเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ จึงทำให้เด็กได้เรียนรู้ว่าจากจำนวนเด็กทั้งหมด 21 คนนั้นสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มได้โดยจะแบ่งในจำนวนที่เท่ากันหรือจำนวนที่ไม่เท่ากันก็ได้
เด็กจะได้เรียนรู้ทักษะในการนับ , นับและบอกจำนวนได้ , เขียนตัวเลขฮินดูอารบิกได้ , การบวกลบ , การเปรียบเทียบ

จากกิจกรรมข้างต้นใช้วิธีการเรียนการสอนที่ใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่การตั้งใจที่จะสอนการบวกการลบเลขโดยตรง วิธีการสอนข้างต้นจะทำให้เด็กเกิดประสบการณ์และเกิดกระบวนการเรียนรู้ได้ดีกว่าการตั้งใจสอนโดยตรง


นักศึกษาเลขที่1-3 ออกมานำเสนอ สรุปงาน บทความ วิจัย ตัวอย่างการสอน ที่ตนได้รับผิดชอบ
     เลขที่1 นางสาวสุริยาพร  กลั่นบิดา สรุป บทความคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัย
     เลขที่2 นางสาวประวีณา  หงสุด สรุป ตัวอย่างการสอน การนับเลขของเด็กปฐมวัยด้วยนิ้วมือ
     เลขที่4 นางสาวปรียา นักทำนา  สรุปบทความคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย



ครูผู้สอนชี้แจงและให้ความรู้เรื่องของสาระมาตรทางการเรียนรู้ทางคณิตศาตร์ของเด็กปฐมวัย
     -จำนวนและการดำเนินการ
     -การวัด
     -เรขาคณิต
     -พีชคณิต
     -การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
     -ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ครูผู้สอนได้สอนร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย ทั้งหมด6เพลง
     -เพลงสวัสดียามเช้า
     -เพลงสวัสดีคุณครู
     -เพลงหนึ่งปีมีสิบสองเดือน
     -เพลงเข้าแถว
     -เพลงจัดแถว
     -เพลงซ้าย-ขวา



ครูผู้สอนได้สั่งการบ้านโดยมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาเกี่ยวกับของเล่นสำหรับเด็กปฐมวัย โดยจับคู่กันคู่ละ1อย่าง รายละเอียด
      -ชื่อของเล่น
      -วิธีการเล่น
      -ประโยชน์ทางคณิตศาสตร์

ทักษะที่ได้
-ทักษะการคิดวิเคราะห์
-ทักษะการนับเลข
-ทักษะการเปรียบเทียบ
-ทักษะการประมวลผล
 การประยุกต์ใช้
-สามารถให้นักเรียนได้ใช้กระบวนการคิดอย่างไม่เป็นทางการกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้
-สามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ได้
-สามารถนำแนวทางการเรียนการสอนที่ถูกต้องไปใช้กับเด็กปฐมวัยได้จริง
บรรยากาศในห้องเรียน
-สงบ
-เรียบร้อย
-อากาศดี

ประเมินตนเอง
-นั่งเรียนด้วยความเรียบร้อย แต่งตัวเรียบร้อย ตั้งใจเรียน
ประเมินเพื่อน
-ทุกคนตั้งใจเรียน และไม่เสียงดัง
ประเมินครูผู้สอน
-แต่งกายสุภาพ มีวิธีการสอนที่ดีมากๆ และสนุกสนาน